วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

WHAT WHERE WHY HOW TO LEARN ENGLISH IN 10 DAYS???



เกิดอาการเครียดมากเล็กน้อยถึงปานกลาง





วันนี้เปิดเมล์มาเจอข้อความตอบรับจากบริษัทที่เพิ่งสมัครเมื่อคืนเอ้งงง


แหม มาแบบนี้ก็ตกใจสิ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าเรียกไปสัมภาษณ์นะ


เค้าเชิญเราไปทดสอบแหละ 55555555 ก็เลยมาคิดๆ คิดในทางที่บอกตัลหลอดว่า

เอ๊ะ นี่ถ้าตูเกิดฟลุ๊คเข้าได้นี่ไม่เป็นบ้ากับภาษาอังกฤษตายเร๊อะ


ก็เลยเกิดอาการกลัวภาษาอังกฤษอีกแล้ว TT


เสิร์จหาข้อมูลไปมาก็ได้ไปเจอที่บล็อค http://streetenglish.exteen.com


เลยขอเอามาแปะอ่านเองในนี้


10 Rules by Andrew Bigg กฏ 10 ข้อ


ข้อ 1. Forget the rule ลืมกฏซะ
นั่นคือเวลาเราพูดภาษาอังกฤษ อย่าไปพะวงเรื่องของภาษาเราจะไม่ถูกไวยากรณ์ หรือใช้กริยาผิดช่อง เพราะฝรั่งเขาไม่เข้มงวดเรื่องนี้เองเลย





วรั๊ยย ข้อนี้นะ ไม่เคยจำได้อยู่ละ แต่ก็จำได้บ้างกับตัวที่เคยได้ยินบ่อยๆ


ฟังเพลงสากลสิ อ่านจากหนังสือของพี่ลูกกอล์ฟมา แกบอกให้ลองจำประโยคนึงในเพลงให้ได้


และก็นั่นแหละ จะทำให้เราจำแกรมม่าไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องท่องเลยแหละ อิ๊_อิ๊


ข้อ 2. Make mistake พูดผิดซะ
พูดไปเถอะครับ ไม่ต้องกลัวผิด ถ้าเราผิดฝรั่งเขาก็เข้าใจครับว่าภาษาอังกฤษเป็น ภาษาที่ 2 ของเรา เขายังยินดีช่วยแก้ให้คุณได้ ถ้าเค้าไม่แก้ให้คุณก็อย่าไปคบเขาเลย


หวายยยยยยย พูดผิดและมั่วตัลหลอดดดดด แต่เอาจริงนะ เราก็จะไม่พูดตัวที่ผิดมาอยู่แล้ว

แต่จะนึกไม่ออกมากกว่า เฮ่อ~


ข้อ 3. Don't translate อย่าแปลตรงตัว
ใช่ครับภาษาไทยกับอังกฤษ ไม่เหมือนกัน ห้ามไปแปลตรงตัวเช่นบอกว่า ภาษาอังกฤษของผม งูๆปลาๆ My english is snake snake fish fish พูดแบบนี้ฝรั่งงงแน่ๆครับ หรือบอกให้เปิดทีวีว่า open the TV อันนี้ผิดอย่างแรง เครื่องใช้ไฟฟ้าเค้าต้องพูดว่า turn on the TV นะ


โหหหหหหห บ่อยมากเหอะ จนเดี๋ยวนี้แปลข้ามสายพันธุ์ค่ะ แปลพออ่านเข้าใจเอง 555555


ข้อ 4. Keep it simple ใช้ภาษาง่ายๆ
ใช่เลย จะพูดอังกฤษ คนไทยบางคนต้องคิดเอาให้ภาษาตัวเองดูไฮโซ พยายามใช้คำยากๆแทน เช่นจะไปกินข้าวที่บ้าน I'm going to dine at my house ไม่รู้จะใช้คำนี้ทำไมครับ ใช้ eat สิครับ จบ





โอยยย ข้อนี้ไม่ต้องกลั๊ววววว เพราะฉันนึกคำหรูหราไม่ออกอยู่แล้ว


ข้อ 5. Could you please slow down กรุณาพูดช้าๆหน่อย
คนไทยเป็นโรคขี้เกรงใจ หรือ หน้าแตก ครับ ฟังฝรั่งไม่เข้าใจ ก็ยังฟังต่อไป ไม่บอกให้เขารู้ว่าเราไม่เข้าใจ พอเป็นแบบนี้ก็เกิดความเข้าใจผิดทีหลัง หรือเขาสั่งงานมาเราก็ทำไม่ได้เพราะฟังไม่เข้าใจ ไม่ต้องกลัวครับถ้าฟังไม่ทัน ก็ขอให้เขาพูดช้าๆลงหน่อย


55555 ถ้ากับคนต่างชาติที่คุยกับเราจริงๆราบอกได้เนาะ แต่ถ้าเป็นเสียงซาวน์แทร็คในภาพยนต์ก็...

ฝันไปเถอะ - -


ข้อ 6. Relax ทำตัวสบายๆ
คนไทยเป็นโรคเกร็งเวลาคุยกับฝรั่ง หลายคน ไม่ต้องกลัวครับฝรั่งไม่ใช่ยักษ์ใช่มารที่ไหน เวลาคุยกับเขา ก็หัดเป็นฝ่ายซักถามหรือชวนคุยไปเลยครับ เราจะได้ผูกมิตรกับเขา แล้วหมดโรคกลัวนี้ไปได้


ก็คนมันเกร็งอ้าาาา แต่จะพยายามนะคะ




ข้อ 7. Listen and Copy ฟังแล้วเลียนแบบ
ผมสนับสนุนมากๆครับ คือฝึกภาษา เราต้องหัดฟังแล้วเลียนแบบ และวิธีที่ดีที่สุดที่ผมชอบคือ ฝึกภาษาอังกฤษจากหนังนั่นแหละ ฝึกฟังแล้วเลียนแบบ เราจะได้ออกเสียงเป็น เผลอๆสำเนียงดีไปในตัวด้วย จะฝึกคำหยาบ คำสบถก็ทำไปเถอะ ถ้ามันช่วยคุณได้


ชอบมากกกก บ่อยมากกกกกก สนุกสุดดดดดด


ข้อ 8. Guess เดา
บางครั้งเวลาอ่านภาษาอังกฤษ แล้วเราไม่เข้าใจคำศัพท์ ผมมีวิธี ที่ผมเองก็ทำประจำ คือ เดาครับ อ่านหาใจความโดยรวมของเรื่องที่เราอ่าน บางครั้งเจอคำยากๆ เราก็ลองเดาว่ามันแปลว่าอะไร


555555555555 บ่อยอีกเช่นกัน คิ


ข้อ 9. Give yourself time ให้เวลากับตัวเอง
หมายถึงให้เวลากับตัวเองในการฝึกภาษาอังกฤษ จะบ่อยจะถี่แค่ไหนก็ขึ้นกับตัวเรา ไม่ใช่เห็นภาษาอังกฤษเป็นเรื่องน่าเบื่อ ก็ไม่สนใจที่จะขวนขวายหรือเรียนรู้ การมาอ่านบลอคของผม วันสองวันต่อครั้ง ก็ถือว่าคุณแบ่งเวลาตัวเองนิดเดียวไม่กี่นาทีในการฝึกภาษาอังกฤษเหมือนกัน





พรืดดดดดดดด #เสียงถอนหายใจ ทำยังไงดีล่ะ คือพอเปิดคอมมาใช่มั้ยล่า


ก็จะไปอ่านการ์ตูนทุกทีเลย 555555555555555555555555555


ข้อ 10. Read read read อ่าน อ่าน และก็อ่าน
ข้อสุดท้ายคือหัดอ่านภาษาอังกฤษเยอะๆ เราจะได้ภาษาเข้ามาให้หัว จนบางทีเก่งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ตัวผมเรียนในมหาวิทยาลัยอินเตอร์ ผมอ่าน textbook ทั้งเล่มมาแล้วก็มี สิ่งที่ผมได้ ผมได้ทั้งคำศัพท์เฉพาะทางก็มีเยอะแยะ





T-----------------T ใจร้ายยยยยยย you are the killer. I can't read every time, I am laze every time too.


ข้อโบนัสแถม Find a foreign friend หาเพื่อนฝรั่ง
มีเพื่อนฝรั่ง ทำให้เราได้ฝึกใช้ภาษา และมีครูที่แนะเราได้อยู่ใกล้ตัว ถ้าให้ดีและได้ผลดีที่สุดนะครับ หาแฟนฝรั่งเลยมั๊ย









เป็นไงล่าาาาาาาาาา นี่อ่านแล้วแบบ เออ! จริงว่ะเฮ่ย!


แต่เอาจริงๆนะ ฉันไม่อยากจะพูดกับคนไทยเลย


นางจะมาดูแกรมม่าเราตะไม ไหนจะสำเนียงการออกเสียงอีก


กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

บ่นๆๆๆ

บ่นๆๆๆ


อยากลองแปลการ์ตูนซักเรื่องจัง
แต่เราไม่ถนัดปะกิตขนาดนั้นอ่า
-3-
บู่ววว มีเวลาเยอะจะลองละกันนะ
อิอิ 

เมื่อไรจะจบน้อ
ถามว่ากลัวชีวิตช่วงทำงานมั้ย ไม่นะ กลัวตอนใกล้จะจบมากกว่า ว่าจะไม่มีทำงาน T_T
ทำไมถึงไม่กลัวชีวิตช่วงทำงานน่ะเหรอ ก็นะ

เราไม่ได้เกิดมารวยล้นหนิ...

อยากให้แม่มีแบบคนอื่นบ้าง แล้วอีกอย่าง อยากลองงานหนักๆกว่านี้อะ พูดจริงๆนะ ไม่รู้ทำไม 
รู้สึกว่าอยากเหนื่อยจนไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นอะไรงี้มั้ง

แปลกใช่มั้ยล่า? อิอิ

ความฝันมีมั้ย มีนะ แต่ไม่บอกหรอก เราถือเคล็ดงี้มานานละ ฮิฮิ
อีกอย่างเราก็เคยฝันอย่่างเดียวนะ แต่นี่เดี๋ยวลองจบก่อนซิ ไม่ได้ฝันอย่างเดียวแน่ อู้วว ตื่นเต้นตื่นเต้น


คิดถึงแม่
คิดถึงวอนคยู คิดถึงตุ้ยอี้
คิดถึง คิดถึง

วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2555

WONKYU~

                                                            KYUHYUN SO CUTE




SIWON SO HANDSOME




WHEN THEM MET...






I  LIKE  YOU GUYS STAY TOGETHER











Miss you...Kyuhyunie




LOVE ALWAYS

MY

WONKYU



Thanks

Siwon&Kyuhyun

ปัจจุบันของเรา

เฮ่ออออ

นี่เรากลายเป็นคนรักเด็กตั้งแต่เมื่อไรน้าา #ได้ข่าวว่านานแล้ว

ก็ชอบอะ เด็กๆมันเก่งกันทั้งเลย

ส่วนแก่อย่างเอสเจน่ะเร๊อะ



รักไปจนตายอะ

*ปล.นี่ไม่ใช่ทั้งหมดในชีวิตเราหรอก

^^